การใช้สเต็มเซลล์รักษาผู้ป่วยโควิด-19 (Stemcell Cure Covid-19)

อ้างอิงบทความจาก Facebook ดร.วินัย ดะหลั่น
 
เมื่อวงการแพทย์จีนเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสกรณีโรคโควิด-19
เมื่อวงการแพทย์จีนเปลี่ยนวิกฤติเป็โอกาสกรณีโควิด-19 

ภาวะที่ต้องต่อสู้กับโรคโควิด-19 ในเวลานี้ วงการแพทย์จีนยอมรับว่านี่คือวิกฤติหนักของชาติ วิกฤตินี้ในภาษาจีนกลางใช้คำว่า “เหว่ยจี” เป็นคำที่นำเอาคำว่า “เหว่ยเสียน” ที่แปลว่า “อันตราย” รวมเข้ากับคำว่า “จีสุ่ย” ที่แปลว่า “โอกาส” กลายเป็นคำสอนโบราณที่ว่าหากเห็นคำว่าวิกฤติในภาษาจีนครั้งใด มองเข้าไปจะเห็นโอกาสทุกครั้ง เหตุการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในมณฑลเหอเป่ย เมืองอู่ฮั่น ที่ลุกลามกลายไปเป็นวิกฤติหนักของประเทศจีนก็เป็นเช่นเดียวกัน กลายเป็นโอกาสให้วงการแพทย์จีนในการพัฒนากระบวนการต่อสู้กับโรคระบาดหรือแม้กระทั่งกับสงครามเชื้อโรค ศัตรูของจีนหากได้เห็นวิธีการที่แพทย์จีนพัฒนาขึ้นเพื่อต่อสู้กับ COVID-19 แล้วอาจคิดหนักหากจะต้องตอแยกับจีนในสงครามเชื้อโรคที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

 

เรื่องที่เขียนนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากไลน์ของ ศ.ดร.นพ.วิปร วิประกษิต ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล ที่เขียนถึงเพื่อน นำมาดัดแปลงอาจารย์หมอเขียนว่านักวิทยาศาสตร์จีนสามารถใช้ mesenchymal stem cell (MSC) รักษาคนไข้ COVID-19 ที่มีอาการรุนแรงจำนวน 4 รายได้แล้วโดย MSC ช่วยลดการอักเสบและปรับสมดุลภูมิต้านทาน (immuno modulation) ซึ่งรู้ๆกันอยู่ว่าผู้ป่วย COVID-19 ที่เสียชีวิตมีพยาธิสภาพไม่เฉพาะที่ปอดแต่พบที่กล้ามเนื้อหัวใจ และเนื้อสมอง ปัญหานี้อาจเกิดจากไวรัส เข้าไปกระตุ้นระบบภูมิต้านทานของร่างกาย (host immunity) กระทั่งควบคุมระบบไม่ได้หันมาทำร้ายร่างกายของตัวเอง เป็นซะยังงั้น

 

อาจารย์เปรียบเทียบว่าไวรัสเหมือนมดหนีน้ำขึ้นบ้านแค่เอาปากเป่ามันก็ปลิวไปได้แต่บางบ้านกลับจุดไฟไล่มด ไฟลุกลามเผาบ้านวอดวาย ไฟแบบนี้เรียกในภาษาแพทย์ว่า "cytokine storm" ตัวอย่างที่คนไทยรู้จักดีคือกรณีของคุณปอ ทฤษฎี ที่เสียชีวิตจากไวรัสไข้เลือดออกอันเป็นผลมาจากกลไกที่ร่างกายเอา “ไฟ” ไล่ “มด” อย่างที่บอก

 

ปัจจุบัน MSC ขึ้นทะเบียนโดย US-FDA แล้วเพื่อนำมาใช้รักษาภาวะ Graft versus host disease (GVHD) ที่เกิดขึ้นภายหลังการรักษาด้วยการปลูกถ่าย hematopoietic stem cell (เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด) ซึ่งภาวะ GVHD ดังกล่าวเกิดจากระบบภูมิต้านทาน ทำงานเกินเหตุกระทั่งเข้าไปทำลายเซลล์ร่างกายทุกระบบ

 

วิกฤติ COVID-19 จึงเป็นโอกาสให้วงการแพทย์จีนนำเอา MSC มาใช้นับเป็นการพัฒนาแบบก้าวกระโดดโดยแพทย์สามารถทดสอบแนวทาง (paradigm) ใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแพทย์เฉพาะบุคคล (precision medicine) ในการรักษาคนไข้ นอกเหนือจากวิธีการแบบเดิมๆเช่น การใช้ยาต้านไวรัส การให้สารน้ำ การช่วยหายใจ ที่เป็นมาตรฐานแต่มีข้อจำกัด ซึ่งไม่เพียงพอในกรณีผู้ป่วยบางคน

 

การใช้ MSC ที่เพาะเลี้ยงจากเซลล์ของผู้ป่วยเอง (autologous MSC) น่าจะเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด เพราะลดโอกาสการเกิดความไม่เข้ากันของเนื้อเยื่อ (incompatibility) ที่อาจเกิดขึ้นได้ จะเห็นได้ว่าหากไม่เกิดปัญหา COVID-19 โอกาสในการทำงานวิจัยในลักษณะคิดนอกกรอบเช่นนี้อาจเกิดขึ้นไม่ได้เลย

 

งานวิจัยที่ทำในประเทศจีนเวลานี้ต้องยอมรับว่าล้ำหน้ามากที่สุดเท่าที่มีอยู่ในวงการวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน งานเช่นนี้หากทำในประเทศไทย คงต้องใช้เวลา 3 ปีเป็นอย่างตำ่ หรืออาจจะทำไม่ได้เลย ในสหรัฐอเมริกาเองหากมีโอกาสเห็นจีนทำงานคงออกอาการหนาวแน่นอน เพราะสุดยอดมาก ทั้งแนวคิด การออกแบบ การทดลอง และ เครื่องมือที่ใช้ และที่สำคัญระยะเวลาที่ทำคือทุกอย่างเสร็จใน 2 สัปดาห์ ทำได้ระดับนี้ คงต้องขอยอมแพ้ ท่านสรุปอย่างนั้น

 

ที่มา : https://www.facebook.com/1482913448683294/posts/2247635478877750/?sfnsn=mo